post6
ตอนนี้เรามาถึงยุคของการพัฒนาอุปกรณ์การเลี้ยงที่ทันสมัยขึ้นแล้ว ตัวเลือกก็เยอะขึ้นมากมายดีๆ ทั้งนั้น ปั้มน้ำก็มีการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานอย่างสิ้นเชิงเหมือนกัน กลายเป็นปั้มน้ำที่ทำหน้าที่แค่ดูดน้ำในช่องสุดท้าย แล้วดันน้ำไปเข้าบ่อเลี้ยงเฉยๆ แต่ได้ปริมาณน้ำที่มากมายกว่าเดิม และกินไฟน้อยลงมากๆ จากที่ต้องใช้กำลัง 400 w เพื่อให้ได้น้ำที่ 18,000 ลิตร/ชั่วโมง ก็กลายเป็นใช้แค่ 50 -70w ก็ได้น้ำมากมายถึง 20,000 ลิตรต่อชั่วโมงอะไรยังเงี้ย ลดค่าไฟได้มากมาย ผมแนะนำปั้มน้ำ HA 20 กับ HA25 ครับ ของดีราคาประหยัดน่าใช้มากครับ ทนทานใช้ได้เลย
.
หน้าตาปั้มน้ำรุ่น ATMAN HA20 กับ HA25 เหมือนกันเป๊ะ
.
แต่ถ้าจะเล่นกันแบบทนอึด ทนนาน คบกันยาวๆ ก็ต้องนี่เลยครับ ปั้ม HU กับ ปั้ม TCP
มีหลายรุ่นหลายราคาให้เลือกมากมายครับ เข้าไปดูรายละเอียดพร้อมราคาได้ที่หมวดปั้มน้ำ ปั้มลมได้เลยครับบอกไว้อย่างละเอียด
.
การเอาน้ำกลับเข้าบ่อจากช่องสุดท้ายที่น้ำใสแล้ว ถ้าสามารถเอามาผ่านน้ำตกได้ก็จะสร้างบรรยากาศที่ดีมากๆ ให้กับบ้านและที่ดีกว่านั้นคือเป็นการลดอุณหภูมิน้ำให้เย็นลงได้อีก ปลาชอบน้ำเย็นๆ ครับ คุณภาพน้ำที่มีการไหลผ่านชั้นน้ำตกจะสร้างสิ่งดีๆ ในกับบ่อมากมายอย่างคาดไม่ถึง น่าทำกันนะครับ น้ำตกทำง่ายมาก ช่างทำบ่อปลาหรือนักจัดสวนเกือบทุกคนล้วนถนัดเรื่องนี้กันอยู่เแล้ว
………..
น้ำที่ผ่านระบบกรองจนจบกระบวนการทุกช่องกรองแล้ว ก็จะค่อยๆ ลดค่าของเสียในน้ำลงเรื่อยๆ ไม่ได้ลงทีเดียวหมดนะครับ ของมันต้องใช้เวลามั่ง แต่สิ่งที่ต้องสนใจในขั้นตอนสุดท้ายนี้ก็คือรอบของน้ำที่ไหลเวียนทั้งระบบครับ
ตามสูตรของบ้านเราจากคนที่มีประสพการณ์และรวมถึงตำราต่างประเทศก็จะแนะนำให้จัดการรอบน้ำให้ได้ประมาณ 15-18 รอบต่อวัน เข้าใจไหมครับว่าทำยังไงกับรอบน้ำนี้ อยากจะบอกว่าง่ายครับ แค่เอาปริมาณน้ำที่มีในบ่อทั้งหมดรวมถึงน้ำในช่องกรองด้วยนะ ว่ามีปริมาตรน้ำเท่าไหร่
สมมุติว่าบ่อเราที่รวมช่องกรองแล้วมีขนาด กว้าง 3 เมตร ยาว 5 เมตร ลึก 1 เมตร เอามาคูณกันซะ ก็จะได้ 3x5x1= 15 ตัน หรือ 15,000 ลิตร เราอยากได้น้ำทั้ง 15 ตันหมุนได้ 15 รอบ ก็เอามาคูณกันซิ 15×15 = 225 ตัน หรือ 225,000 ลิตร มหาศาลเลยนะนั่น น้ำขนาดนี้จะต้องหมุนให้ครบภายใน 1 วันหรือ 24 ชั่วโมงนั่นเอง งั้นเราก็ต้องเลือกขนาดปั้มที่มีกำลังวังชาดีๆ หน่อย เวลาเลือกปั้มก็พลิกดูป้ายข้างกล่องว่ามีความสามารถเท่าไหร่ ตัวเลขที่เราต้องดูคือ ลิตร/ชั่วโมง เช่น 5000 L /hr ก็หมายถึง ปั้มนี้มีกำลัง 5000 ลิตรต่อชั่วโมงเป็นต้น คราวนี้เราเอาตัวเลขน้ำในบ่อเราที่มี 225,000 ลิตร เอามาหาร 24 ชั่วโมงเพราะเราจะเอามาหารุ่นปั้มที่เหมาะสมกัน หารแล้วก็จะได้ 9,375 ลิตร/ชั่วโมง
คราวนี้เป้าหมายของปั้มที่เราเลือกก็น่าจะอยู่ที่ 10,000 ลิตร/ชั่วโมง หรือตามกล่องก็จะเขียนไว้ว่า 10,000/hr แค่นี้เองไม่ยากเลย ส่วนใหญ่มักจะเลือกให้สูงขึ้นไปอีกนิด ก็จะกลายเป็น 12,000 L/hr ถ้ารุ่น ATMAN HA 20 ก็เป็นปั้มที่มีกำลังน้ำ 20,000 L/hr สามารถรองรับบ่อขนาด 25-30 ตันได้ลงตัว แถมกินไฟที่ระบุข้างกล่องก็แค่ 50w เอง จากที่เมื่อก่อนต้องเลือกปั้มไดโว่ที่คนทำบ่อมือโปรทั้งหลายชอบเอามาใช้ใส่หัวเจ็ทตัวแสบ ถ้าจะเอาให้ได้น้ำเท่านี้คงต้องโดนไปที่ 400w แน่ๆ แถมปั้มไดโว่ก็จะพังเร็วมากๆ ด้วย เพราะหัวเจ็ทมาอั้นน้ำเอาไว้ เปลืองไฟ เปลืองปั้ม และเปลืองปลาด้วยนะ